บ้านเรือนไทยจะสร้างเป็นหลัง ๆ ตามประโยชน์การใช้สอย เช่น เป็นเรือนนอน เรือนครัว หอนั่ง หอกลาง หอพระ หอนก ฯลฯ โดยสร้างแยกกันเป็นหลัง ๆ เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงและชาน และสามารถต่อเติมและขยายออกไปได้เรื่อย ๆ ตามจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น โดยเริ่มแรกก็อาจมีเพียงเรือนนอน และเรือนครัว ซึ่งมีลักษณะเป็นเรือนเดี่ยว ต่อมามีสมาชิกเพิ่มก็อาจสร้างเรือนนอนเพิ่ม หรืออาจสร้างหอนั่ง หอพระ เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ก็จะเป็นเรือนหมู่ ถ้ามีเรือนหลายหลังและมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลาย ๆ หลัง ก็จะเป็นเรือนคหบดี โดยใช้เรือนนอนหลังใหญ่ของเจ้าของบ้านเป็นศูนย์กลางและเรือนหลังอื่น ๆ อยู่รายล้อมโดยมีชานตรงกลางเป็นตัวเชื่อมและเป็นที่ใช้สอยร่วมกัน ขนาดของเรือนจะเล็กใหญ่และสูงต่ำไม่เท่ากันตามความสำคัญของผู้อยู่อาศัยและประโยชน์ใช้สอย มีการวางทิศทางไปทั้งแนวนอนและแนวขวาง ทำให้เรือนไทยมีความสวยงามมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ที่งดงามไปอีกแบบหนึ่ง การจัดวางตัวเรือนไปในทิศทางต่าง ๆ และขนาดเล็กใหญ่และสูงต่ำไม่เท่ากันทำให้เกิดมุมมองและทัศนียภาพที่สวยงาม รูปทรงหลังคาจั่วที่โค้งลาดลง เสาเรือนที่สอบเข้าหากัน ไม่เป็นเส้นตรง ทำให้ดูอบอุ่นน่าอยู่อาศัยและกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบ ๆที่เป็นต้นไม้หรือแม่นำลำคลอง ตัวอย่างการวางผังตามที่ปรากฏดังรูป คราวต่อไปจะเรื่องส่วนประกอบของบ้านเรือน ติดตามได้ตอนต่อไปครับ
มีหลายคนคิดอยากจะทำบ้านทรงไทยจำลองด้วยตนเองเพื่อเป็นงานอดิเรกหรือทำเป็นอาชีพหรือธุรกิจส่วนตัว แต่ก็ติดปัญหาคือหาที่เรียนยากค่าเรียนแพงหรือเรียนจากหนังสือที่สอนทำแล้วทำไม่ได้จริงหรือไม่สวยงามพอไม่ได้สัดส่วนตามแบบสถาปัตยกรรมไทย ผมเคยหัดทำด้วยตนเองมาเมื่อหลายปีก่อนขณะที่ว่างงานแต่ไม่ได้จำหน่ายและไม่ได้สอนใครเพราะกลัวจะหาคนเรียนไม่ได้ ในที่สุดจึงตัดสินใจเขียนบลอคนี้ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่เพื่อจะได้ช่วยกันอนุรักษ์บ้านทรงไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยู่สืบไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น